Why Nostr? What is Njump?
2023-09-23 14:10:44

โลกร้อน จริงหรือ ??

เมื่อนานมาแล้ว ท่ามกลางความมืดที่เย็นสนิท แรงโน้มถ่วงเริ่มดึงดูดกลุ่มแก๊สและละอองต่างๆมารวมกัน แรงมหาศาลที่ดึงดูดและกระทำกับกลุ่มมวลนั้นมหาศาล มวลต่างๆถูกดึงดูดให้บีบอัดเข้าหากัน จนกระทั่งกลายเป็นกลุ่มก้อนแก๊สร้อนเรืองแสง จนในที่สุดมันก็ร้อนมากพอที่จะสร้างพลังงานได้ด้วยตัวเอง ดาวฤกษ์หนึ่งเดียวที่ให้ความร้อนและแสงสว่าง ดวงอาทิตย์ของเรา

เมื่อมองเข้าไปใต้พลาสมาที่ร้อนระอุ ลึกลงไปข้างในที่แกนกลางของดวงอาทิตย์ส่วนที่ร้อนที่สุด อะตอมที่กำลังชนกันที่อัตราความเร็วสูงและถูกหลอมรวมกัน ได้ปลดปล่อยพลังงานที่บริสุทธิ์ กระบวนการนี้เรียกว่า นิวเคลียร์ฟิวชั่น

ในแกนกลางของดวงอาทิตย์ ขณะที่อะตอมกำลังพุ่งชนและหลอมรวมกัน โฟตอนได้ถูกปลดปล่อยออกมา และพยายามที่จะไหลออกมาสู่ภายนอก พลังงานเล็กๆที่ไร้มวลบางส่วนนั้นสามารถหลุดรอดผ่านชั้นต่างๆภายในของดวงอาทิตย์ พุ่งตรงออกมาจากแกนกลางของดวงอาทิตย์ด้วยความเร็วแสง มันแผ่รัศมีออกไปทุกทิศทาง บางส่วนได้เดินทางผ่านระยะทาง 150ล้านกิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 8นาทีกว่าๆ พุ่งตรงมายังโลกของเรา

ในทุกๆวินาที ใบไม้แต่ละใบจะดูดซับโฟตอนจำนวนมหาศาล กรานาได้รับแสงอุ่นๆจากดวงอาทิตย์ พื้นผิวที่ปกคลุมไปด้วยโปรตีนที่ทำหน้าที่คอยดักจับโฟตอนที่มาจากดวงอาทิตย์ ในนั้นอัดแน่นไปด้วยสารสีเขียวอย่างคลอโรฟิลล์ที่สามารถดูดซับแสงแดด

คลอโรฟิลล์ดักจับพลังงานที่ส่งมาจากดวงอาทิตย์ เมื่อน้ำรวมกับคาร์บอนไดออกไซด์และแสงแดด กระบวนการนี้ถูกเรียกว่า การสังเคราะห์แสง ได้เปลี่ยนรูปของพลังงานจากแสงอาทิตย์ ซึ่งผลผลิตที่ได้นั้น คือน้ำตาลและออกซิเจน กลายที่เป็นกักเก็บพลังงานใหม่ไว้ส่งต่อให้กับสิ่งมีชีวิตบนโลก

น้ำตาล เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารประกอบอินทรีย์อื่นๆ ที่ทำให้พืชเจริญเติบโต เช่น แป้ง เซลลูโลส โปรตีนหรือไขมัน

ออกซิเจน เป็นธาตุที่สำคัญสำหรับสิ่งมีชีวิตที่ต้องใช้ในการหายใจและเผาผลาญพลังงาน

พลังงานนั้น ไม่ได้ถูกทำให้เพิ่มขึ้นหรือหายไป พลังงานเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในจักรวาลของเรานี้ มันแค่หมุนเวียน เปลี่ยนรูปจากพลังงานรูปแบบหนึ่งไปสู่พลังงานอีกรูปแบบหนึ่ง

การโฆษณาชวนเชื่อว่า การอุปโภคบริโภคที่มากของมนุษย์นั้น เป็นเรื่องเลวร้าย ไม่ว่าการรณรงค์ให้ประหยัดน้ำมัน ลดการใช้พลังงาน ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ เพราะยิ่งกินเนื้อสัตว์ยิ่งทำให้โลกร้อน !!

คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) แนะนำให้พลเมืองหันมาบริโภคพืชผัก เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน ใช่ พวกเขากำลังบอกให้พวกเรา ฆ่าพืช เพื่อนำมาบริโภค พวกเขาบอกว่ามันจะช่วยลดโลกร้อน พวกเขายังอ้างอีกว่าการทำปศุสัตว์นั้น ทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ในดินถูกปล่อยออกมาและเกิดก๊าซเรือนกระจก 555 (ขออภัยที่อดขำไม่ได้จริงๆ)

พืชซึ่งกำลังทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ พืชที่ทำหน้าที่ส่งต่อพลังงานไปยังเหล่าสรรพสัตว์ กำลังถูกคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งตัวพวกเขาเองนั้นก็ต้องใช้พลังงาน และอุปโภคบริโภคไม่ได้ต่างไปจากพวกเรา พวกเขากำลังบอกให้ผู้คนหันไปกินพืชกันมากขึ้นและลดการกินเนื้อ พืชที่เป็นแหล่งพลังงานของเหล่าสัตว์ พวกเขากำลังบอกให้พวกเรากินพืชแทนที่จะกินสัตว์

พวกเขายังแนะนำการบริโภคแบบมังสวิรัติที่ประกอบไปด้วย ผัก ผลไม้ ธัญพืช(เมล็ด) ถั่วต่างๆ

กรดอะมิโนชนิดจำเป็น ที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถผลิตเองได้นั้น เราสามารถได้รับโดยตรงจากการบริโภคเนื้อสัตว์ ผู้ที่ทานแต่ผักมักจะขาดสารอาหารบางชนิด อีกทั้งอุตสาหกรรมการเกษตรมักอุดมไปด้วยยาฆ่าแมลงและสารเคมีต่างๆ นี่คือเหตุผลที่ มนุษย์ควรระมัดระวังในการบริโภค และต้องบริโภคทั้งพืชและสัตว์อย่างสมดุล

ถ้ามองในอีกแง่ ผู้เขียนมองว่า พวกเขาเองนั่นแหละที่กำลังทำให้โลกร้อน ถ้าพวกเขาจะกล่าวหาว่า คาร์บอนไดออกไซด์ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก

เพราะพวกเขากำลังบอกให้พวกเราทำลายพืช กินพืชให้มากขึ้น พวกเขากำลังบอกให้มนุษย์บริโภคพืชแทนเนื้อสัตว์ เขากำลังบอกให้เราแย่งอาหารจากบรรดาเหล่าสัตว์

เมล็ดพืชที่ปกติแล้วจะต้องทำหน้าที่ในการแพร่พันธุ์ จะแพร่พันธุ์ต่อได้อย่างไร ถ้ามนุษย์เก็บมากินไปซะหมด ต้นไม้จะเอาใบไม้ที่ไหนมาสังเคราะห์แสง หากมนุษย์กินพืชแทนเนื้อกันทุกคน

ความจริงแล้ว ผู้คนมีสิทธิ์อุปโภคบริโภคเท่าไรก็ได้ ตราบใดที่พวกเขาหาทรัพยากรนั้นมาด้วยตัวเอง

การพยายามสร้างความเชื่อลวงโลกว่า โลกของเรานี้กำลังร้อนขึ้นๆ พวกเขาพยายามโน้มน้าวว่า การลดใช้พลังงาน การลดการบริโภคเนื้อสัตว์นั้น เป็นการกระทำความดี เพราะกำลังช่วยลดโลกร้อนอยู่ สิ่งนี้เป็นเพียงแค่การหลอกให้ผู้คนเชื่อว่า สิ่งๆนั้นไม่มีคุณค่า สิ่งๆนั้นเป็นสิ่งเลวร้าย สิ่งๆนั้นเป็นการไม่รับผิดชอบต่อส่วนรวม เพราะมันเป็นการง่ายที่สุดที่ผู้คนจะไม่ออกมาต่อต้าน และไม่ถามว่าทำไม ผู้คนเข้าใจว่าพวกเขากำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง พวกเขาคิดว่าพวกเขากำลังปกป้องโลกใบนี้ ซึ่งมันไม่จริง

ทุกวันนี้ผู้คน ผลิตสิ่งต่างๆที่ได้มาจากทรัพยากรมากกว่าที่พวกเขาได้ใช้ไป ผู้คนหลายล้านคนบนโลกกำลังทำงานหนัก แต่กลับได้บริโภคสิ่งต่างๆเพียงน้อยนิดและบางสิ่งไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมที่มนุษย์จะบริโภค ในขณะที่คนบางกลุ่มกลับสามารถบริโภคสิ่งต่างๆได้อย่างล้นเหลือ

ความจริงแล้ว พวกเขาแค่ต้องการให้เราทิ้งสิ่งที่มีค่าไปด้วยตัวเอง เลิกอุปโภคบริโภคโดยสมัครใจ เพื่อที่พวกเขาจะนำทรัพยากรเหล่านั้นไปใช้ได้โดยง่าย แบบไร้การขัดขืน ไร้ข้อกังขา พวกเขาต้องการลดส่วนแบ่ง เพื่อที่ตัวเองจะได้ใช้มากขึ้นต่างหาก พวกเขาแย่งชิงมันอย่างไร ผู้อ่านก็คงจะทราบกันดีในวิธีการแย่งชิงทรัพยากร

พลังงานนั้นมีอยู่แล้วและจะไม่หายไป โลกได้รับพลังงานมาจากดวงอาทิตย์ อะตอมที่ถูกหลอมรวมกันและกลายเป็นหนึ่งได้ปลดปล่อยโฟตอน โฟตอนถูกส่งมาจากดวงอาทิตย์โดยกระบวนการนิวเคลียร์ฟิวชั่น ต้นไม้ดูดซับพลังงานนั้นไว้และส่งต่อไปยังสิ่งมีชีวิต

สิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะ มนุษย์ พืชหรือสัตว์ เพียงแค่นำสิ่งที่มีอยู่แล้วนั้นมาใช้ มนุษย์เราก็เป็นแค่เพียงสิ่งหนึ่งในกระบวนการการเปลี่ยนรูปพลังงานเท่านั้น ผู้คนไม่ได้กำลังทำเรื่องเลวร้ายหรือเรื่องที่ดี สิ่งนี้มันเป็นเพียงธรรมชาติ ผู้ที่พยายามบิดเบือนความจริงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองต่างหาก ที่เลวร้ายอย่างแท้จริง แต่มันก็คงเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติอีกเช่นกัน

Author Public Key
npub1pcrwas9n9uwmzqcsqh0alselauulx0vkdwzns3jv5wwcwvsjlvts5sqlaq