It's over Anakin, I have the high ground. on Nostr: ...
เห็นหลายคนยังเริ่มต้นพูดถึงที่มาของเงินว่ามาจาก barter system คือจะบอกว่าคุณเข้าใจผิดนะครับ
ไอ้ว่าเงินเกิดมาจาก barter system เนี่ยมันคือการมโนเอาล้วนๆ ของนักเศรษฐศาสตร์ยุคแรกว่าเงินมาจากไหน ก่อนมีเงินคนใช้อะไรกัน แล้วช่วงนั้นมีการล่าอาณานิคม มีคนไปบังเอิญเจอชนเผ่าทำพิธี barter กันอยู่ นักเศรษฐศาสตร์ยุคนั้นเลยจับแพะชนแกะเอาว่าก่อนหน้าที่มนุษย์จะมีเงิน เราใช้วิธีแลกของกันไง เหมือนพวกชนเผ่า แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย ภายหลังมีการค้นพบว่า barter system ระหว่างชนเผ่ามันเป็นเรื่องของพิธีกรรมมากกว่า คือมันเป็นประเพณีทางการทูตที่เมื่อสองเผ่าเจอกันเลยสังสรรค์กันแล้วแลกของกัน แต่ในความเป็นจริงมันไม่มีใคร barter ในชีวิตประจำวันกัน คุณลองนึกสภาพว่าสังคมที่ใช้ระบบแลกเปลี่ยนของกันทุกวันมันจะวุ่นวายขนาดไหนและเป็นจริงได้เหรอ ใครมันจะบังเอิญอย่างได้ของอีกฝ่ายตรงกันทุกวัน
จริงๆ ระบบการเงินแรกเริ่มของมนุษย์มาจากหนี้ต่างหาก แต่ไม่ใช่หนี้เป็นเงินตรา มันคือหนี้บุญคุณ ฉันให้อันนี้เธอ เดี๋ยวอีก 2-3 วันเธอทำอันนี้ให้ฉันแทนนะ เป็นต้น เราถึงได้มีหลักจริยธรรม ศีลธรรมหลายอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับบุญคุณเพราะมันเป็นรากฐานของสังคมยุคดั้งเดิมที่ผู้คนแลกเปลี่ยนกันด้วยการติดหนี้บุญคุณแล้วไปชดใช้เอาวันหลัง ถ้าคนไม่ให้ความสำคัญกับบุญคุณสังคมก็คงอยู่ไม่ได้ และด้วยสังคมโบราณมันขนาดเล็กการตามทวงหนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย ง่ายกว่าหาคนที่มีของตรงตามที่เราต้องการและเรามีของที่เค้าอยากได้อีก
ตั้งคำถามกับความรู้ทุกอย่างที่พบเจอในระบบเฟียตแล้ว อยากลืมตั้งคำถามกับที่มาของเงินที่เหล่านักเศรษฐศาสตร์ท่องตามๆ กันมาด้วยนะครับ
ถ้าลองนึกดูดีๆ เราก็น่าจะเอะใจกันบ้างว่านักเศรษฐศาสตร์จะไปรู้ที่มาของเงินได้อย่างละเอียดได้ยังไง คนที่น่าจะรู้คือนักโบราณคดีต่างหาก
สำหรับคนที่สนใจเรื่องประวัติศาสตร์ของหนี้ ก็ลองอ่านเล่มนี้ดูนะครับ
#Siamstr
https://www.amazon.com/Debt-First-5-000-Years/dp/1612191290?fbclid=IwAR2OSh8SR31YO4h6dFe5Lh2f-P5db875TCkRgCSM1QtrEUH_ytOBbK6ZxyYPublished at
2024-02-25 07:14:54Event JSON
{
"id": "93c3094d85f2a61edabf69b516b5b02e9719f424e56b3ee6be25394d6fa4131d",
"pubkey": "1c45a67c9a875bb9a0f9e2b8d3de02e500e0f7709b0ec6d1795fe3fffcbd16f4",
"created_at": 1708841694,
"kind": 1,
"tags": [
[
"t",
"Siamstr"
],
[
"t",
"siamstr"
],
[
"r",
"https://www.amazon.com/Debt-First-5-000-Years/dp/1612191290?fbclid=IwAR2OSh8SR31YO4h6dFe5Lh2f-P5db875TCkRgCSM1QtrEUH_ytOBbK6ZxyY"
]
],
"content": "เห็นหลายคนยังเริ่มต้นพูดถึงที่มาของเงินว่ามาจาก barter system คือจะบอกว่าคุณเข้าใจผิดนะครับ\n\nไอ้ว่าเงินเกิดมาจาก barter system เนี่ยมันคือการมโนเอาล้วนๆ ของนักเศรษฐศาสตร์ยุคแรกว่าเงินมาจากไหน ก่อนมีเงินคนใช้อะไรกัน แล้วช่วงนั้นมีการล่าอาณานิคม มีคนไปบังเอิญเจอชนเผ่าทำพิธี barter กันอยู่ นักเศรษฐศาสตร์ยุคนั้นเลยจับแพะชนแกะเอาว่าก่อนหน้าที่มนุษย์จะมีเงิน เราใช้วิธีแลกของกันไง เหมือนพวกชนเผ่า แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย ภายหลังมีการค้นพบว่า barter system ระหว่างชนเผ่ามันเป็นเรื่องของพิธีกรรมมากกว่า คือมันเป็นประเพณีทางการทูตที่เมื่อสองเผ่าเจอกันเลยสังสรรค์กันแล้วแลกของกัน แต่ในความเป็นจริงมันไม่มีใคร barter ในชีวิตประจำวันกัน คุณลองนึกสภาพว่าสังคมที่ใช้ระบบแลกเปลี่ยนของกันทุกวันมันจะวุ่นวายขนาดไหนและเป็นจริงได้เหรอ ใครมันจะบังเอิญอย่างได้ของอีกฝ่ายตรงกันทุกวัน\n\nจริงๆ ระบบการเงินแรกเริ่มของมนุษย์มาจากหนี้ต่างหาก แต่ไม่ใช่หนี้เป็นเงินตรา มันคือหนี้บุญคุณ ฉันให้อันนี้เธอ เดี๋ยวอีก 2-3 วันเธอทำอันนี้ให้ฉันแทนนะ เป็นต้น เราถึงได้มีหลักจริยธรรม ศีลธรรมหลายอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับบุญคุณเพราะมันเป็นรากฐานของสังคมยุคดั้งเดิมที่ผู้คนแลกเปลี่ยนกันด้วยการติดหนี้บุญคุณแล้วไปชดใช้เอาวันหลัง ถ้าคนไม่ให้ความสำคัญกับบุญคุณสังคมก็คงอยู่ไม่ได้ และด้วยสังคมโบราณมันขนาดเล็กการตามทวงหนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย ง่ายกว่าหาคนที่มีของตรงตามที่เราต้องการและเรามีของที่เค้าอยากได้อีก\n\nตั้งคำถามกับความรู้ทุกอย่างที่พบเจอในระบบเฟียตแล้ว อยากลืมตั้งคำถามกับที่มาของเงินที่เหล่านักเศรษฐศาสตร์ท่องตามๆ กันมาด้วยนะครับ\n\nถ้าลองนึกดูดีๆ เราก็น่าจะเอะใจกันบ้างว่านักเศรษฐศาสตร์จะไปรู้ที่มาของเงินได้อย่างละเอียดได้ยังไง คนที่น่าจะรู้คือนักโบราณคดีต่างหาก\n\nสำหรับคนที่สนใจเรื่องประวัติศาสตร์ของหนี้ ก็ลองอ่านเล่มนี้ดูนะครับ\n\n#Siamstr \n\nhttps://www.amazon.com/Debt-First-5-000-Years/dp/1612191290?fbclid=IwAR2OSh8SR31YO4h6dFe5Lh2f-P5db875TCkRgCSM1QtrEUH_ytOBbK6ZxyY\n\n",
"sig": "a5a4e2309335be5c332bcf8a1f053e361476f3673242b14aec9e79c731cdd48b9fb272fb422b7623ba28948dd3aae8d5f7e4d89928a6523bbab1a9a0a0a9ed3e"
}