Why Nostr? What is Njump?
2024-05-09 20:58:05

Jakk Goodday on Nostr: ## **Time preference กับ ...

## **Time preference กับ เสต็คเนื้อแห่งอนาคต**
กลิ่นหอมกรุ่นของเนื้อย่างโชยแตะจมูก.. ภายในร้านเสต็คเนื้อบรรยากาศสุดคลาสสิค แสงไฟสลัวส่องกระทบผนังอิฐเปลือย ภาพวาดวัวกระทิงแขวนเรียงราย บ่งบอกถึงความเป็น "Meat Lover" ของเจ้าของร้าน ทีมงาน Right Shift 3 หน่อกำลังนั่งล้อมโต๊ะไม้ขัดเงา ..รอคอยเมนูจานหลัก



"นี่มันเหมือน Marshmallow Test ชัดๆ"

เอ่ยขึ้นพลางจ้องมองเสต็คเนื้อริบอายชิ้นโตตรงหน้า..

"จะกินเลยตอนนี้มันก็ฟิน แต่ถ้านั่งรออีกสักพักก็จะได้เวลล์ดันที่สุกกำลังดี"

"มันคือ Time Preference ล้วนๆ" เสริม

"เราให้คุณค่ากับความสุขตอนนี้ทันทีมากกว่าผลตอบแทนในอนาคตมากแค่ไหน"

Time Preference หรือ ความเห็นแก่เวลา เป็นแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ พฤติกรรมศาสตร์ และจิตวิทยา ที่อธิบายว่าคนเรามีมุมมองต่อ "คุณค่าของเวลา" แตกต่างกัน บางคนให้ความสำคัญกับปัจจุบันมากกว่าอนาคต (High Time Preference) ในขณะที่บางคนมองการณ์ไกล ยอมรอผลตอบแทนในระยะยาว (Low Time Preference)

บก. พี่ใหญ่ของทีมขมวดคิ้ว.. "พวกที่เห็นแก่เวลามากๆ (High Time Preference) ก็เหมือนตอนเด็กๆ ที่เลือกกินมาร์ชเมลโลว์ทันทีแทนที่จะรอสองชิ้นนั่นแหละ"

"ก็ชีวิตมันไม่แน่นอนอะครับ" อิสระเสริม

"ใครจะไปรู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ก็กินมันเลยตอนนี้แหละชัวร์สุด"

ความไม่แน่นอนของชีวิต เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ Time Preference เมื่ออนาคตยิ่งดูเลือนลาง คนก็ยิ่งอยากไขว่คว้าความสุขในปัจจุบันให้มากที่สุดเอาไว้ก่อน

"แต่ถ้ารอหน่อย ก็ได้ความสุขที่มากขึ้นนะ" ซุปโต้แย้ง

"เหมือนเสต็คเวลล์ดันที่สุกทั่วถึง รสชาติมันเข้มข้นกว่ากันเยอะ"

"ก็เหมือนกับการออมเงินนั่นแหละ" จิงโจ้เสริม

"มันก็คือการรู้จักอดเปรี้ยวไว้กินหวาน"

การออม และ การลงทุน เป็นตัวอย่างของพฤติกรรมที่แสดงถึง Low Time Preference (ไม่เห็นแก่เวลา) ซึ่งก็คือการยอมเสียสละความสุขในปัจจุบัน เพื่อรอผลตอบแทนที่มากขึ้นในอนาคต

บทสนทนาของทีม Right Shift เริ่มเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาเริ่มมองเห็นความเชื่อมโยงระหว่าง Time Preference กับการตัดสินใจในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การกินเสต็คเนื้อไปจนถึงการวางแผนอนาคต

"แต่มันก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างเหมือนกันนะครับ" อิสระแย้ง

"เพราะถ้าอนาคตมันดูไม่แน่นอน ใครจะไปกล้ารอล่ะครับพี่"

ความไม่แน่นอน (Uncertainty) คือ ยิ่งอนาคตดูเลือนลาง มีความเสี่ยงสูง คนก็ยิ่งมีแนวโน้มเลือกความสุขในปัจจุบัน เพราะไม่มั่นใจว่าจะได้รับผลตอบแทนในอนาคตจริงหรือเปล่า



"ก็เหมือนกับร้านนี้" ซุปชี้ไปที่ครัวเปิด

"ถ้าเห็นเชฟทำเนื้อไหม้อยู่ตลอด ใครจะกล้าสั่งเวลล์ดันล่ะ"

ความเชื่อมั่น (Trust) คือ หากมีความเชื่อมั่นว่าจะได้รับผลตอบแทนในอนาคตอย่างแน่นอน คนก็จะมีแนวโน้มยอมรอ แต่ถ้าเชื่อว่ามีความเสี่ยงสูง (อย่างกรณีนี้คือสั่งเวลล์ดันแล้วได้เนื้อไหม้ตลอด) ก็คงไม่มีใครอยากรอ

"ความเชื่อมั่นก็สำคัญแหละ" จิงโจ้กล่าว

"ถ้ารู้ว่าผลตอบแทนในอนาคตมันดีจริง คนก็ยอมรอ"

อีกปัจจัยก็คือ อายุ (Age) โดยทั่วไป เด็กและวัยรุ่นมักจะมี High Time Preference เน้นความสุขระยะสั้น ในขณะที่ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุมักมี Low Time Preference มองการณ์ไกลและให้ความสำคัญกับอนาคตมากขึ้น

"เหมือนการลงทุนระยะยาว" ซุปเสริม

"ต้องเชื่อมั่นในศักยภาพของมัน ถึงจะยอมรอผลตอบแทนได้"

การลงทุนระยะยาว เช่น กองทุนรวม, หุ้น, อสังหาริมทรัพย์ รวมไปถึงการเก็บออมในบิตคอยน์ ก็ล้วนต้องการ Low Time Preference เพื่อรอผลตอบแทนที่งอกเงยในอนาคต

"Time Preference มันสะท้อนในการตัดสินใจทุกอย่างเลยเนอะ" อิสระกล่าว

"ตั้งแต่การใช้เงิน การดูแลสุขภาพ การเรียน การทำงาน"

จิงโจ้ได้กล่าวเสริมอิสระไปว่า..

“Time Preference ส่งผลต่อการตัดสินใจในชีวิตประจำวันมากมาย เช่น การใช้จ่าย ซื้อของฟุ่มเฟือยทันที vs. ออมเงินเพื่อซื้อของที่ต้องการในอนาคต”

“หรือจะเรื่องสุขภาพ อย่างการกินอาหาร Fast Food vs. เลือกอาหารเพื่อสุขภาพ”

“หรือการศึกษา ที่ต้องเลือกระหว่างเรียนจบเร็วๆ เพื่อทำงาน vs. ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น”

“ทีนี้การทำงาน ก็ต้องเลือกงานที่เงินเดือนสูง แต่เครียด vs. เลือกงานที่เงินเดือนน้อย แต่มีความสุข”



คราวนี้ซุปยกตัวอย่างบ้าง.. "เหมือนการเลือกเสต็ค"

"จะเน้นปริมาณ หรือเน้นคุณภาพ จะกินเนื้อติดมัน หรือเนื้อสันใน"

เน้นปริมาณ (High Time Preference) เลือกเสต็คเนื้อติดมันราคาถูก กินให้อิ่มในปัจจุบัน

เน้นคุณภาพ (Low Time Preference) เลือกเสต็คเนื้อสันในราคาแพง เพื่อรสชาติและประสบการณ์ที่ดีกว่า

Time Preference กับปรัชญาการใช้ชีวิต

"มันคือปรัชญาในการใช้ชีวิต" จิงโจ้สรุป

"เราจะใช้ชีวิตแบบวันต่อวัน หรือจะวางแผนเพื่ออนาคต"

“Time Preference ไม่ใช่แค่แนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ แต่มันสะท้อนถึงปรัชญาการใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วย

Carpe diem (High Time Preference) ใช้ชีวิตให้เต็มที่ในปัจจุบัน

Delayed Gratification (Low Time Preference) ยอมเสียสละความสุขในปัจจุบัน เพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้นในอนาคต..”

3 หน่อ Right Shift เริ่มเข้าใจ Time Preference มากขึ้นหลังการถกเถียง พวกเขาตระหนักว่าการหาจุดสมดุลระหว่างปัจจุบันและอนาคต เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสุขและความสำเร็จ

"แต่ก็ต้องหาจุดสมดุลให้เจอ" อิสระเสริม

"ถ้ามัวแต่รออนาคต ก็อาจพลาดความสุขปัจจุบัน มัวแต่สนุกในวันนี้ ก็อาจจะลำบากในวันหน้าเอาได้"

การหาจุดสมดุลระหว่าง High Time Preference และ Low Time Preference เป็นสิ่งสำคัญ

High Time Preference ใจเร็วด่วนได้มากเกินไป อาจนำไปสู่การใช้จ่ายเกินตัว, ปัญหาสุขภาพ, ขาดความมั่นคงในอนาคต

Low Time Preference อดเปรี้ยวไว้กินหวานมากเกินไป อาจทำให้พลาดโอกาสในการสร้างความสุขในปัจจุบัน, เครียด จนกดดันตัวเองมากเกินไป

"เหมือนการกินนั่นแหละ" ซุปกล่าว

“การกินอาหาร เป็นตัวอย่างที่ดีของการหาจุดสมดุลระหว่างความสุขและสุขภาพ..”

“ถ้ากินแต่ของอร่อย (High Time Preference) อร่อยถูกปาก แต่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว”

“ในขณะที่ถ้ากินแต่อาหารเพื่อสุขภาพ (Low Time Preference) ดีต่อสุขภาพ แต่อาจจะขาดความสุขในการกิน”



"Time Preference มันเหมือนเข็มทิศ" จิงโจ้สรุปอีกครั้ง

"มันช่วยให้เราวางแผนชีวิต เลือกเส้นทางที่เหมาะสม"

“Time Preference ช่วยให้เราเข้าใจตัวเอง รู้ว่าเราให้คุณค่ากับอะไร ปัจจุบัน หรือ อนาคต ตัดสินใจได้อย่างมีสติ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราในระยะยาว”

“วางแผนอนาคต กำหนดเป้าหมาย และ วางแผนการเงิน การศึกษา อาชีพ สร้างสมดุลชีวิต มีความสุขกับปัจจุบัน พร้อมกับเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต”
.
.
.
เสียงช้อนส้อมกระทบจานดังขึ้น.. เสต็คเนื้อถูกหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ทีม Right Shift ดื่มด่ำกับรสชาติและบทสนทนาที่ชวนขบคิด พวกเขาเรียนรู้ที่จะ "**เลือก**" "**รอ**" และ "**พอ**" เพื่อสร้างความสุขและความสำเร็จในแบบฉบับของตัวเอง

เพราะชีวิตก็เหมือนเสต็คเนื้อ เลือกสรรอย่างมีสติ ค่อยๆ ย่างอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้รสชาติที่สมบูรณ์แบบ

Time Preference ไม่ใช่แค่แนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ แต่มันคือ.. **ศิลปะในการใช้ชีวิต**

การเข้าใจ Time Preference ของตัวเอง ช่วยให้เราวางแผนชีวิต เลือกเส้นทางที่เหมาะสมและสร้างความสุขที่ยั่งยืนได้

- - -

## **มาร์ชเมลโล่เทสต์** บททดสอบ Time Preference

การทดลอง "มาร์ชเมลโล่ เทสต์" ที่อิสระกล่าวถึงในช่วงต้น เป็นการทดลองทางจิตวิทยา ที่ศึกษาเรื่อง "Time Preference" หรือ "ความเห็นแก่เวลา" ในเด็ก

โดยให้เลือกระหว่างจะกินมาร์ชเมลโล่ 1 ชิ้นในทันที หรือจะรอ 15 นาที เพื่อได้รับ 2 ชิ้น

ผลการทดลองพบว่า เด็กที่สามารถรอได้ มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้มากกว่า ทั้งในด้านการเรียน การงาน และความสัมพันธ์

เหตุผลที่เป็นเช่นนั้น.. เพราะการรอคอย แสดงถึงความสามารถในการยับยั้งชั่งใจ (Self-control) ควบคุมอารมณ์และความต้องการของตัวเอง, การวางแผน (Planning) คิดถึงผลลัพธ์ในอนาคต, ความอดทน (Patience) รอคอยผลตอบแทนที่ดีกว่า

มาร์ชเมลโล่เทสต์ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของ Time Preference ต่อการดำเนินชีวิต

การตัดสินใจทุกอย่างในชีวิต ล้วนเกี่ยวข้องกับ Time Preference ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่าย การทำงาน การเรียน หรือแม้แต่การเลือกรับประทานอาหาร

ดังนั้น.. การทำความเข้าใจ Time Preference ของตัวเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสุขและความสำเร็จที่ยั่งยืน

ครั้งต่อไปที่ต้องตัดสินใจ ลองถามตัวเองว่า
กำลังเลือกความสุขในปัจจุบัน หรือ ผลตอบแทนในอนาคต?

กำลังเลือกมาร์ชเมลโล่ 1 ชิ้น หรือ 2 ชิ้น?

คำตอบนั้น.. อยู่ที่ตัวคุณเอง

#jakkstr #siamstr #AustrianEconomy #TimePreference
Author Public Key
npub1mqcwu7muxz3kfvfyfdme47a579t8x0lm3jrjx5yxuf4sknnpe43q7rnz85