Jakk Goodday on Nostr: ตลาดแห่งความสุข ความสุขของฉัน ...

ตลาดแห่งความสุข ความสุขของฉัน กับพลังของเรา..

ตลาดแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ต่างมุ่งแสวงหา 'ความสุข' ของตนเอง บ้างก็มุ่งมั่นทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว บ้างก็ไขว่คว้าหาความสุขจากการใช้จ่าย บ้างก็แสวงหาความหมายจากการช่วยเหลือผู้อื่น ภาพที่เห็นอาจดูวุ่นวาย

แต่เบื้องหลังความแตกต่างหลากหลายนี้ ซ่อนปรัชญาแห่งความย้อนแย้งที่น่าค้นหา..

นักคิดผู้โดดเด่นอย่าง Ayn Rand มองว่าแก่นแท้ของมนุษย์คือ 'rational egoism' เราล้วนถูกขับเคลื่อนด้วย 'เหตุผล' และ 'ผลประโยชน์ส่วนตน' เปรียบเสมือนพ่อค้าในตลาดที่ต่างมุ่งหวังผลกำไรสูงสุด

นี่คือหลักการพื้นฐานที่ Adam Smith เรียกว่า 'มือที่มองไม่เห็น' ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนตลาดเสรีให้หมุนเวียนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ตลาดแห่งความสุขจะยั่งยืนได้อย่างไร หากไร้ซึ่ง 'จริยธรรมแห่งความร่วมมือ' ?

ลองนึกภาพร้านค้าที่เอาเปรียบลูกค้าหรือพ่อค้าที่เห็นแก่ตัว โกงตาชั่ง ความวุ่นวายจะบังเกิดและตลาดจะล่มสลายในที่สุด

นักเศรษฐศาสตร์ออสเตรียนอย่าง Friedrich Hayek ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ 'spontaneous order' หรือ 'ระเบียบที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ' เปรียบเสมือนกฎเกณฑ์ของตลาดที่ช่วยควบคุมพฤติกรรมของผู้คน

กฎเกณฑ์ที่ชัดเจนและเป็นธรรม คือรากฐานสำคัญที่ทำให้เกิดความร่วมมือโดยธรรมชาติ

พ่อค้าที่ซื่อสัตย์และให้บริการที่ดี ย่อมได้รับความไว้วางใจและมีลูกค้ามากขึ้น ในขณะที่พ่อค้าที่เห็นแก่ตัว ย่อมถูกตลาดลงโทษ นี่คือ 'จริยธรรมแห่งความร่วมมือ' ที่เกิดขึ้นจากการที่ปัจเจกชนแต่ละคนมองเห็นผลประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว

นักปราชญ์อย่าง Aristotle ได้เคยเสนอทางสายกลางด้วยแนวคิด 'golden mean' หรือ 'ความพอดี'

เปรียบเสมือนพ่อค้าที่รู้จักรักษาสมดุล ไม่เอาเปรียบลูกค้าจนเกินไป แต่ก็ไม่ยอมขาดทุน การหาจุดกึ่งกลางระหว่าง 'ความสุขของฉัน' กับ 'พลังของเรา' คือกุญแจสำคัญในการสร้างตลาดแห่งความสุขที่ยั่งยืน

ดังนั้น ตลาดแห่งความสุขจึงมิใช่สมรภูมิของการแก่งแย่งชิงดี แต่เป็นพื้นที่ของการเรียนรู้ เติบโต และร่วมมือกัน เพื่อสร้าง 'ความสุข' ที่ยั่งยืนทั้งในระดับ 'ปัจเจกชน' และ 'สังคมโดยรวม'

ภายใต้การชี้นำของ 'มือที่มองไม่เห็น' และ 'จริยธรรมแห่งความร่วมมือ' ที่แข็งแกร่ง

#Siamstr