iPongphan ⚡️ on Nostr: เมื่อ "เวลา" นั้นมี "ค่า" ...

เมื่อ "เวลา" นั้นมี "ค่า" คุณพร้อมหรือยังที่จะสละเวลาให้ใครอีกคน? ผมมักจะถามกลับต่อคนที่ถามผมว่ามีลูกแล้วเป็นอย่างไรบ้าง

สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนั้นดีเสมอ LIFE GOES ON เพราะเวลาไม่คอยท่า ชีวิตยังต้องดำเนินต่อ บุตรธิดาคือผลลัพธ์จากเหตุปัจจัยที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ซึ่งล้วนเกิดจากการกระทำทั้งสิ้น

จากลูกโทนที่ไม่ได้ใกล้ชิดญาติพี่น้องสักเท่าใด จากคนที่คิดว่าไม่อยากมีลูก มาถึงช่วงเวลาหนึ่งที่เราได้แบ่งส่วนของ "เวลา" ให้กับคนอื่นเพื่อเรียนรู้ซึ่งกันและกัน มานึกทวนย้อนกลับ "เวลา" ที่เรามีตอนนั้น คงถึงเวลาที่จะต้องแบ่งและพร้อมที่จะส่งต่อให้คนอื่นอีกเพิ่มขึ้น ลูกคือสิ่งที่เราตัดสินใจในช่วงเวลานั้น

กว่าแปดปีที่ได้รู้ว่ามีสิ่งใหม่เกิดขึ้นในชีวิต กว่าสองปีที่ได้รู้จักบิตคอยน์ ถึงตอนนี้เราได้เห็นคุณค่ามากมายของชีวิต

- Time: เวลาที่เรามีซึ่งไม่รู้จะหมดอายุเมื่อใด เวลาที่สามารถสร้างผลผลิตต่างๆให้เกิดขึ้น เมื่อเวลามากขึ้น ผลผลิตจะเพิ่มขึ้นตาม

เมื่อก่อนครอบครัวจะใหญ่กว่าปัจจุบัน การมีบุตรธิดาหลายคนทำให้ครอบครัวสร้างผลผลิตได้มากขึ้น ลองคิดถึงสังคมที่มีเงินที่ดี ครอบครัวช่วยกัน "ทำมา-หากิน-เหลือเก็บ-ลงทุน" ความมั่งคั่งจะค่อยๆเกิดขึ้นไม่มากก็น้อย แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นไม่ใช่แบบนั้น

- Gratitude: "เราไม่เคยมีบุญคุณต่อกัน" เราอาจจะเคยได้ยินประโยคนี้มาบ้าง "ความกตัญญู" อาจจะแตกต่างไปในนิยามของใครแต่ละคน 20-40-60 และ 70ปี ที่เป็นอายุขัยของพลเมืองโลก พ่อแม่แบ่งส่วนเวลาที่มีค่ามาดูแลลูกในวัยแบเบาะ ลูกที่เติบใหญ่ก็แบ่งเวลาที่มีค่าเพื่อดูแลพ่อแม่ที่แก่เฒ่าและร่วมกันดูแลทารกที่พึ่งเกิดมาใหม่อีกเช่นเดียวกัน สิ่งนี้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ควรจะเป็น แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นไม่ใช่แบบนั้น

- Healthy and Wealthy: เมื่ออาหารคือยา และสิ่งแวดล้อมจากธรรมชาติก็คือยาเช่นกันสำหรับมนุษย์ ความพอดีของมนุษย์ที่ได้รับสารอาหารนั้นดีพอที่จะทำให้ความเสี่ยงลดลงและรักษาตนเองไปได้นานขึ้น 1-20-40-60 และ 70ปี คงจะเป็นเส้นกราฟที่ดีของสุขภาพ แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นไม่ใช่แบบนั้น

๊Unschooling, Homeschooling or School is Everywhere คือการได้ใช้เวลาที่มีจำกัดอย่างคุ้มค่า การเรียนรู้เกิดขึ้นตลอดเวลา และการจัดสรรเวลาให้มีคุณภาพมากที่สุดของแต่ละคน แต่ละครอบครัวนั้นแตกต่างกันไปตามเหตุและปัจจัย ถ้าจะเปรียบว่า School คือ Centralized และ Unschooling คือ Decentralized ก็น่าจะพอเห็นภาพ จริงๆทั้งสองประเภทมีข้อดีและข้อด้อย ข้อดีคือทุกที่นั้นคือความรู้

Decentralization เป็นคุณสมบัติที่มนุษย์ในตอนนี้และในอนาคตต้องการ เพราะการตัดสินใจและกระทำที่ผิดพลาดของศูนย์กลางนั่นแหล่ะ ที่เป็นความจริงมาถึงทุกวันนี้

Fix the money, Fix the world อย่างน้อยการเปลี่ยนแปลงที่เงินจะเป็นสิ่งแรกของอารยธรรมที่มนุษย์ควรได้ร่วมอาศัย