#Siamstr อ่าน > https://w3.do/sggA0fYw

quoting
naddr1qq…7r5v

สำหรับเพื่อนๆ ชาวบิตคอยน์ที่ติดตาม RS มาตลอด คงรู้กันดีว่า บิตคอยน์ คือที่สุดของสกุลเงินดิจิทัล

ใช่แล้วครับ.. บิตคอยน์ได้รับสมยานามว่าเป็นทองคำดิจิทัล มีค่ามาก ปลอดภัยสูงสุด แต่ก็แลกเปลี่ยนกันยากเย็นแสนเข็ญ (บนเลเยอร์ 1)

แล้วไลท์นิ่งเน็ตเวิร์คล่ะ?

มันก็เหมือน “ระบบการโอนเงินอย่างรวดเร็ว" (บนเลเยอร์ 2) ที่ทำให้การแลกเปลี่ยนบิตคอยน์รวดเร็ว ปลอดภัย และค่าธรรมเนียมถูกลง แต่มันก็ยังจำกัดอยู่แค่การแลกเปลี่ยนบิตคอยน์เท่านั้น (ส่งบิตคอยน์ไลท์นิ่งให้กันไปมา)

ผมจะพาพวกเราไปรู้จักกับ Lnfi (เดิมชื่อ NostrAssets) ที่เปรียบเสมือน "ศูนย์การค้า" ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของบิตคอยน์และไลท์นิ่งเน็ตเวิร์คไปตลอดกาล

https://image.nostr.build/9b746f8cc8db44a0b5380c595e32a2dcfcffbecf97c0718dbed3b02ca01a3dbc.jpg

🤔 Lnfi คืออะไร?

Lnfi คือ เลเยอร์ 2.5 ที่เป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างบิตคอยน์, ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์ค และโปรโตคอลนอสเตอร์เข้าด้วยกัน

เป้าหมายคือการนำ Web3 และโทเค็นมาสู่ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์คและสร้างระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจสำหรับแอปพลิเคชันต่างๆ

🤔 แล้ว Lnfi ทำงานอย่างไร?

Lnfi ใช้ Taproot Assets (เดิมชื่อ Taro) ซึ่งเป็นโปรโตคอลใหม่ ที่ช่วยให้สามารถออกสินทรัพย์ดิจิทัลบนบล็อกเชนของบิตคอยน์ได้

โดยสินทรัพย์เหล่านี้จะสามารถโอนผ่านไลท์นิ่งเน็ตเวิร์คได้อย่างราบรื่น ทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็ว ปริมาณมาก และมีค่าธรรมเนียมต่ำ

🤔 เจ้า Lnfi มันมีอะไรน่าสนใจบ้าง?

มันทำได้มากกว่าการแลกเปลี่ยนบิตคอยน์ เพราะ Lnfi ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การแลกเปลี่ยนบิตคอยน์กันเท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่การออกโทเค็น, ระดมทุน, stake, lock, ให้ของขวัญ และซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลบนไลท์นิ่งเน็ตเวิร์คได้

ลองนึกถึงการมี Stablecoin วิ่งอยู่บนไลท์นิ่งดูครับ..

มันจะช่วยลดภาระบล็อกเชนของบิตคอยน์ ช่วยให้การทำธุรกรรม Bitcoin บนเลเยอร์ 1 ราบรื่นขึ้น (เพราะไม่ได้วิ่งบนเลเยอร์ 1) ช่วยเพิ่มทราฟฟิกและการใช้งานบนเลเยอร์ชั้นถัดไป.. ทำให้เกิด Adoption ได้ง่ายขึ้น (ในแง่ปริมาณการเข้ามาใช้งานบนเครือข่าย)

นอกจากนี้มันยังใช้งานง่ายด้วยภาษาธรรมชาติ ผู้ใช้สามารถใช้คำสั่งภาษาธรรมชาติ (ภาษาพูดธรรมดานี่แหละ) ผ่านโปรโตคอลนอสเตอร์เพื่อโต้ตอบกับ Lnfi ได้อย่างง่ายดาย..

แถมธุรกรรมก็ฟรี เพราะธุรกรรมทั้งหมดบน Lnfi ไม่มีค่าธรรมเนียม

ในด้านความปลอดภัยและความโปร่งใส การดำเนินการทั้งหมดของผู้ใช้จะถูกเข้ารหัสและสามารถตรวจสอบได้บน NostrAssets Explorer

และมันยังประสิทธิภาพสูง เพราะ Lnfi สามารถรองรับธุรกรรมจำนวนมากต่อวินาที (TPS) ได้

https://image.nostr.build/7eeaf1a10b1afb6e8d6d1e546793ea253de671176754fb350cca3f790ed153e7.jpg

ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นร้านค้าต่างๆ ในศูนย์การค้า Lnfi

1. MicroNode / บริการนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าและจัดการไลท์นิ่งโหนดของตนเองได้ง่ายๆ ผ่านนอสเตอร์ (Early access) เหมือนมีตู้เซฟเก็บบิตคอยน์ไว้กับตัว ที่ปลอดภัย แถมยังมีบริการให้เช่าตู้เซฟ สร้างรายได้อีกด้วย

2. Lightning Starter / แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้โครงการต่างๆ สามารถระดมทุนและออกโทเค็นได้อย่างยุติธรรมและโปร่งใส เหมือนเวทีประมูลที่เปิดโอกาสให้ร้านค้าใหม่ๆ มาเปิดตัวในศูนย์การค้า

3. LN Exchange / เป็นแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจสำหรับการซื้อขายบิตคอยน์ และ Taproot Assets เหมือนตลาดซื้อขายที่ช่วยให้ลูกค้าซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์กันได้สะดวก

แล้ว Lnfi จะเปลี่ยนโฉมหน้าของบิตคอยน์อย่างไร?

Lnfi จะช่วยให้บิตคอยน์ไม่ใช่แค่ทองคำดิจิทัลที่มีไว้แค่เก็บสะสม แต่ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับนักพัฒนาและผู้ใช้งาน และขยายขอบเขตของระบบนิเวศบิตคอยน์ให้กว้างไกลยิ่งขึ้น

เวิร์คช็อป Lnfi ในเวที Advanced Stage ของงาน #TBC2024 (วันที่ 14 กันยายน 2567)

เวิร์คช็อป Lnfi จะเป็นโอกาสดี ที่เราจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแพลตฟอร์มนี้จากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เตรียมตัวให้พร้อมกับคำถามที่น่าสนใจ แล้วมาพบกันในงานครับ..

https://image.nostr.build/ca3da44972ebbe48f39fe842834e1679202c17f180cf017fb705420a09154457.jpg

เนื้อหาเสริม..

ทีนี้มาลองกาวกันบ้าง.. 🤣

เจาะลึก 3 บริการเด่นในศูนย์การค้าคริปโต Lnfi

นอกจากความสามารถในการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว ปลอดภัย และฟรีแล้ว Lnfi ยังมีบริการที่น่าสนใจอีกมากมาย เปรียบเสมือนร้านค้าต่างๆ ในศูนย์การค้า ที่จะช่วยให้การใช้งานบิตคอยน์ของคุณสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

1. MicroNode - ตู้เซฟ Bitcoin ส่วนตัว

MicroNode คือบริการที่ช่วยให้คุณตั้งค่าและจัดการไลท์นิ่งของตัวเองได้ง่ายๆ ผ่าน Nostr โดยไม่ต้องมีความรู้ทางเทคนิค เหมือนมีตู้เซฟส่วนตัวสำหรับเก็บบิตคอยน์ไว้กับตัว

ตัวอย่างการใช้งาน..

สมมติว่าคุณกังวลเรื่องความปลอดภัยของบิตคอยน์ที่ฝากไว้กับกระดานเทรด คุณสามารถใช้ MicroNode สร้างไลท์นิ่งโหนดของตัวเอง และโอนบิตคอยน์เข้าไปเก็บไว้ได้ชั่วคราวอย่างปลอดภัย (ถ้าจะเก็บถาวรยังไงก็ยังแนะนำ Cold storage/ Hardware wallet นะครับ)

คุณสามารถใช้ MicroNode เปิดช่องทางการชำระเงิน (Channel) กับ NostrAssets และฝาก/ถอนบิตคอยน์ เข้า/ออกจาก LN Exchange ได้อย่างสะดวกโยธิน

ในอนาคต MicroNode จะมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณสร้างรายได้จากการให้บริการ Liquidity บนไลท์นิ่งเหมือนกับการให้เช่าตู้เซฟ

2. Lightning Starter - เวทีประมูลสำหรับโครงการ Bitcoin ใหม่

Lightning Starter เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้โครงการ Bitcoin ใหม่ๆ สามารถระดมทุนและออกโทเค็นได้อย่างยุติธรรมและโปร่งใส โดยใช้กลไกการจับสลาก (Lottery)

ตัวอย่างการใช้งาน..

โครงการ Bitcoin ใหม่ต้องการระดมทุนเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชัน พวกเขาสามารถใช้ Lightning Starter จัดแคมเปญการระดมทุน โดยผู้ที่สนใจสามารถใช้บิตคอยน์หรือ Taproot Assets (โทเคนที่มิ้นท์ออกมา) ร่วมสนับสนุนโครงการได้

ผู้ที่ร่วมสนับสนุนโครงการ มีโอกาสได้รับโทเค็นของโครงการ ผ่านการจับสลาก ทำให้การกระจายโทเค็นเป็นไปอย่างยุติธรรม

3. LN Exchange - ตลาดซื้อขายบิตคอยน์และ Taproot Assets

LN Exchange เป็นแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ สำหรับการซื้อขายบิตคอยน์ และ Taproot Assets (โทเคนต่างๆ เช่น สเตเบิ้ลคอยน์) ด้วยความเร็วสูง ค่าธรรมเนียมต่ำ และมีความปลอดภัย

ตัวอย่างการใช้งาน..

คุณต้องการซื้อขายบิตคอยน์หรือ Taproot Assets คุณสามารถใช้ LN Exchange เพื่อทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

คุณสามารถใช้ LN Exchange เพื่อแลกเปลี่ยนบิตคอยน์เป็น Taproot Assets หรือทำในทางกลับกัน

Lnfi กำลังจะพลิกโฉม Bitcoin ให้กลายเป็นศูนย์กลางการเงินแบบกระจายอำนาจที่แท้จริง..

---

เจาะลึกคำว่า Layer 2.5 และหลักการทำงานของ Lnfi

ในโลกของบล็อกเชน คำว่า "เลเยอร์" (Layer) มักถูกใช้เพื่ออธิบายระดับต่างๆ ของโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งบิตคอยน์เองก็มีเลเยอร์ต่างๆ อยู่เช่นกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการใช้งาน

เลเยอร์ 1 (Layer 1) คือ บล็อกเชนหลักของบิตคอยน์ที่บันทึกธุรกรรมทั้งหมด เป็นเหมือนฐานรากของระบบ เรียกว่า Base Layer หรือเลเยอร์ชั้นฐาน (บ้างก็เรียกบิตคอยน์เชน, เมนเชน คือเชนหลักที่ Settle ธุรกรรมในทุกๆ ประมาณ 10 นาทีนั่นเอง)

เลเยอร์ 2 (Layer 2) ถูกสร้างขึ้นบนเลเยอร์ 1 เพื่อเพิ่มความเร็วและลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม (Scaling) ตัวอย่างเช่น ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์ค, โปรโตคอล ARK เป็นต้น

เลเยอร์ 3 (Layer 3) มักจะเกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชันและบริการที่สร้างขึ้นบนเลเยอร์ 2 อีกที เช่น แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินต่างๆ

แล้ว Layer 2.5 ล่ะ? มันอยู่ตรงไหน?

🤔 Layer 2.5 คืออะไร?

Layer 2.5 เป็นเลเยอร์ที่อยู่ระหว่าง Layer 2 และ Layer 3 ทำหน้าที่เชื่อมต่อทั้งสองเลเยอร์เข้าด้วยกัน และเพิ่มขีดความสามารถให้กับทั้งสองเลเยอร์

Lnfi ก็คือ Layer 2.5 นั่นเองครับ

📌 หลักการทำงานของ Lnfi

Lnfi ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างบิตคอยน์, ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์คและโปรโตคอลนอสเตอร์ โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของแต่ละเลเยอร์ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มทางการเงินแบบกระจายอำนาจที่มีประสิทธิภาพสูง

1. “บิตคอยน์” เป็นรากฐานของระบบนิเวศ Lnfi โดย Lnfi จะใช้บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์หลักและเป็นเลเยอร์สำหรับการบันทึกข้อมูลขั้นสุดท้าย (final settlement)

2. “ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์ค” Lnfi จะใช้ไลท์นิ่งเน็ตเงิร์คเพื่อเพิ่มความเร็วและลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม ทำให้การโอนบิตคอยน์และ Taproot Assets รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

3. “Taproot Assets” (TARO เดิม) เป็นโปรโตคอลที่ช่วยให้สามารถออกสินทรัพย์ดิจิทัลบนบล็อกเชนของบิตคอยน์ได้ (Tokenization) โดย Lnfi ใช้ Taproot Assets เพื่อสร้างโทเค็นและสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ขึ้นมา (Mint)

4. “โปรโตคอลนอสเตอร์” เป็นโปรโตคอลแบบกระจายอำนาจสำหรับการส่งข้อความและข้อมูล ซึ่ง Lnfi จะใช้โปรโตคอลนอสเตอร์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับแพลตฟอร์มผ่านคำสั่งภาษาธรรมชาติได้ และสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจขึ้นมา

📌 Lnfi ทำงานผ่าน LN Assets Daemon (LAD)

LAD เป็นกระบวนการเบื้องหลังที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่าง Taproot Assets, ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์คและโปรโตคอลนอสเตอร์

LAD จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถ..

• ฝากและถอนบิตคอยน์ และ Taproot Assets ได้ (โทเคนที่มิ้นท์ออกมา)

• โอนสินทรัพย์ระหว่างบัญชีนอสเตอร์ได้ (ใช้บัญชีนอสเตอร์โอนโทเคนให้กัน)

• ซื้อขายบิตคอยน์ และ Taproot Assets บน LN Exchange ได้

• จัดการ Lightning Node ผ่าน MicroNode ได้

---

Your truly, Jakk Goodday 🥳