Why Nostr? What is Njump?
2024-09-06 04:57:00
in reply to

Jakk Goodday on Nostr: ...

ก่อนอื่น ผมต้องขอขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับคำชื่นชมต่างๆ นานา ทั้งจากพี่ป้ำและทุกๆ คนในคอมมูนิตี้ มันมีค่ามากๆ ครับสำหรับพวกเรานะครับ

ผมไม่อยากพูดคำว่าพวกเราแทบไม่มีรายได้กันเลยบ่อยๆ มันรู้สึกเหมือนพวกเราเอาแต่เรียกร้องคะแนนความเห็นใจ เราไม่ได้อยากตั้งใจให้มันออกมาเป็นแบบนั้น

เราแสวงหากำไรกันหรือเปล่า?

ถ้าตอบว่าไม่ก็คงจะดูย้อนแย้งไปหน่อย แต่ผมคงตอบได้ว่า.. เราควรต้องมีรายได้ เมื่อตลาดเห็นว่าเราควรได้ เราควรมีกำไร เมื่อเราบริหารจัดการสิ่งต่างๆ ได้ดีพอ

แต่การจะมีรายได้ในแบบไม่ต้องมาคอยนั่งคิดทำการตลาดฉาบฉวยไร้แก่นสารต่างหาก คือสิ่งที่ยากสุดๆ สำหรับเรา

เราคือกลุ่มคนที่รับเอาปรัชญาบิตคอยน์มาปรับใช้ เรารู้สึกเกลียดตัวเองทุกครั้งที่เหมือนกำลังจะหิวเงิน

ซึ่งมันยากนะ.. ถ้าคุณกำลังต้องทำธุรกิจที่ถ้าคุณอยากรวยมากเกินไป คุณจะไม่ได้รับการยอมรับจากคอมมูนิตี้ เพราะเรารู้ว่าแฟนๆ ของเรามีหลักการแนวคิดกันยังไง แน่นอนล่ะก็ Founder ของเราเป็นคนถ่ายทอดสิ่งนั้นด้วยตัวเอง (อ้าว.. งั้นไปขายอย่างอื่นไม่ง่ายกว่าเหรอ มาบ่นทำไม)

"ตั้มคิดว่าจะใช้ลมปากแล้วได้ผลไปอีกนานแค่ไหน?"

ใครคนนึงทักท้วงกับผมไว้แบบนั้น..

นั่นคือสิ่งที่ผมกลัวที่สุดในตอนแรก มันเป็นความเสี่ยงสูงสุดของตัว Right Shift ผมซึ่งใช้การสื่อสารเป็นหลัก ในการจะรวบรวมทุกอย่างและขับเคลื่อนมันไปข้างหน้า ผม.. ไม่ได้มีค่าตอบแทนใดๆ ให้กับคนในทีมเลย ไม่มีสักแดงเดียว นอกจากคำปลอบประโลมทางความรู้สึก ค่าตอบแทนทิพย์ผ่านลมปากของผมเอง.. ไม่ต้องสืบว่าตัวบริษัทเองจะง่อนแง่นขนาดไหน

ผมไม่เคยเชื่อเลยว่า Right Shift จะมาได้ไกลขนาดนี้เพียงเพราะขวัญกำลังใจ และเป้าหมายบางอย่างที่ทุกคนยึดเหนี่ยวเอาไว้ร่วมกัน

ความกดดันยิ่งถาโถมเข้ามาเรื่อยๆ เมื่อทุกคนต่างเอาจริงเอาจังกับงานที่ได้รับมอบหมาย บางคนยอมทิ้งชีวิตส่วนตัว บางคนยอมแลกมันกับอนาคต บางคนยอมแลกรายได้บางส่วนเพียงเพื่อให้ได้มาทำตรงนี้ ถ้าเราลองมาเป็นผม.. พวกเราจะเข้าใจได้เลย ว่ามันจะกระดากปากมากขนาดไหนเวลาต้องสั่งหรือขอให้พวกเขาทำบางอย่างให้กับเรา

ถ้ามีคนสิบคนมายืนตรงหน้า พร้อมจะทำทุกอย่างตามที่คุณสั่ง แม้จะรู้ว่าคุณอาจไม่ได้ให้อะไรกับเขาเลย คุณจะรู้สึกอย่างไร?

ทั้งหมดเป็นโจทย์ที่คุณต้องขบคิดร่วมไปกับการมองหาวิธีการในการสร้างคุณค่าบางอย่างผ่านตัวคอนเทนต์ ที่สิ่งเหล่านี้เองก็ควรต้องได้ผล เพราะไม่อย่างนั้นมันคงไม่ต่างอะไรกับการที่เราพาคนมาลำบากเปล่าๆ ปลี้ๆ แต่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย

การตัดสินใจเป็นสิ่งที่เรามักต้องทำ โดยบางครั้งเราเองก็อาจไม่รู้ตัว เรามักคิดว่าการตัดสินใจจะส่งผลกระทบชิ่งไปได้หลายทาง อาจมีทั้งดีและแย่ ได้ผลบ้าง เละบ้าง สิ่งเหล่านี้คอยกดดันความคิดของคุณอยู่ตลอดเวลา ผมจมอยู่กับปัญหาในทรวงอกนี้ตลอดขวบปีแรกของพวกเรา เราที่ยังไม่เคยมีใครรู้จัก และเราที่เลือกเส้นทางโหดหินเสียเหลือเกินในแง่ของการจัดตั้งบริษัทจำกัด

"ตั้มจะยังทำแบบนี้ต่อไป.. เพื่ออะไรหรอ?"

แฟนผมคอยถามเพื่อเตือนสติผมอยู่เป็นระยะๆ ด้วยความหวังดีตามประสาแม่บ้านรักครอบครัว เธอก็หวังให้ผมไปทำอย่างอื่นที่จะได้อะไรจับต้องได้มากกว่านี้ แทนที่จะเอาเวลาทั้งหมดมาคอยทำเรื่องนี้ ผมไม่มีคำตอบที่ดีพอจะอธิบายให้เขาเข้าใจได้ ผมทำได้แค่ยิ้มมุมปากพลางพูดปัดๆ อ้อมๆ ไปเรื่อยว่า เธอไม่มีวันเข้าใจมันหรอก..

แต่ทุกปัญหาก็มักจะมีทางออกของมันเองอยู่เสมอ..

ผมต้องเลือก โดยไม่ต้องมีตัวตนของผู้เลือก.. ไม่ต้องมีตัวผมที่คาดหวังผลลัพธ์ต่างๆ นานา ไม่ต้องมีตัวผมที่จะหวั่นไหวกับคำติฉินนินทาใดๆ รอบตัว ไม่ต้องมีตัวผมที่จะสำเร็จหรือกระทั่งหน้าแหก มันต้องตัดสินใจเลือกทำด้วยบางอย่างที่ใหญ่กว่าแค่ตัวของคนเลือก และผมเลือก.. "คอมมูนิตี้" เลือกทำเพื่อพวกเขา น้องๆ ทุกคนใน Right Shift

เมื่อพวกเขาเติบโต เราก็โต

บ่อยครั้งที่ผมจะพยายามพูดคุยเพื่อให้คนในทีมเล็งเห็นว่า การสร้างคุณค่าส่งต่อไปยังผู้ติดตาม กระจายมันออกไปในคอมมูนิตี้นั้นสำคัญขนาดไหน การพาตัวเองเข้าไปซึมซับเป็นหนึ่งในสมาชิกของคอมมูเสียเอง พยานามเข้าใจความต้องการและปัญหาที่หลายคนกำลังประสบพบเจอ มันสำคัญกว่าความของตัวเราเองมากแค่ไหน

ผมโชคดีที่มี Co-Founder อย่าง อ.พิริยะ ภรรยาของ อ. และอั๋น ที่ทุกคนแทบไม่เคยก้าวก่ายรุ่มร่ามในวิธีคิดและการตัดสินใจของผมเลยแม้แต่น้อย กลับกันพวกเขาเปิดกว้างรับฟัง และคอยสนับสนุนการกระทำของผมเสมอมา จะมีใครยอมเชื่อมือในสิ่งที่คุณกำลังทดลองทำได้ไปมากกว่านี้อีก

เมื่อเราไม่สามารถผลิตสินค้าเฟียตๆ ทำกิจกรรมแหกตา หรือบริการหวังผลกำไรได้แบบที่ตำราเขาสอนกัน เราจำเป็นต้องเขียนตำราของตัวเอง ค้นคว้าหาวิธีการที่จะสร้างแบรนด์ขึ้นมาในแบบของเราเองให้จงได้ เราต้องยอมอดมื้อกินมื้อในวันนี้ เพื่อที่จะได้มีโอกาสได้รับคุณค่าเหล่านั้นกลับคืนมาในอนาคต

ทุกครั้งที่ผมเร่งรีบ ผมจะกลับมาคอยถามตัวเองเสมอว่าลองดูสิ.. ดูว่าตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา อ.พิริยะ แกทำอะไรลงไปบ้าง แกก็แทบไม่ได้อะไรจากตรงนี้นะ เราต้องยอมรับให้ได้ว่าผลตอบแทนของเราในตอนนี้จะไม่ใช่ตัวเงิน แต่มันเป็นรูปแบบในมิติอื่นที่เราจะได้มา แล้วมันเพราะอะไรกันเหรอทำไมเขาถึงยังทำอยู่?

ผมร่ายมายาวเพียงแค่ต้องการจะชี้ให้เห็นว่า.. การเป็น Right Shift อย่างวันนี้นั้น มันไม่เคยง่ายเลย..

เอาล่ะ.. ผมต้องมีผลตอบแทนบางอย่างนอกเหนือจากตัวเงินไว้สำหรับน้องๆ กลุ่มผู้เสียสละนี้ ผมต้องมีรางวัลที่ยิ่งใหญ่กว่าแค่รายได้ให้กับพวกเขา ผมกลับมานั่งมองว่าฝันของแต่ละคนมันคืออะไร.. เมื่อพวกเขาได้ลองทำตามฝัน บางทีมันอาจจะพอชดเชยได้บ้าง อย่างน้อยก็คงดีกว่าไม่ได้ให้อะไรเลย

และพี่ป้ำเลือกใช้คำได้สวยงามมากๆ ผมเลือกจะให้ทุกคนได้มี Skin in the game ในมุมของตัวเอง ผมเลือกจะให้ทุกคนได้รับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองอย่างยิ่งยวด โดยไม่จำเป็นต้องมาคอยพึ่งพาอภิหารของใครๆ พวกแกต้องวาดอนาคตของตัวเองขึ้นมา ด้วยตัวแกเอง

พวกนายต้องพรูฟตัวเองให้คนเห็นว่านายสร้างคุณค่าอะไรให้เขาเห็นบ้าง พวกนายจงกลับไปตีความคำว่า "คุณค่า" กันเสียใหม่ ในมุมของคนที่จะได้รับ ไม่ใช่ในมุมที่จะสนองความต้องการของตัวเอง พวกเราต้องอดทนอย่างมัธยัสถ์ วันนี้เรามีแค่เกลือ เราก็ต้องกินข้าวกับเกลือกันไปก่อน ไว้เรารวยค่อยคิดอยากกินเสต๊ก

นี่จึงไม่แปลกเลยที่ผมจะคลิกได้ทันทีกับ Nostr และวรรคทองอย่างคำว่า "Value for Value" โดยไม่จำเป็นต้องให้จิงโจ้มาคอยนั่งอธิบายให้ผมฟังเสียด้วยซ้ำ เพราะมันคือหลักการแนวคิดที่เราพยายามจะปลูกฝังลงไปในตัว Right Shift มาโดยตลอด เราแทรกซึมหลักการนี้เข้าไปในจิตวิญญาณของชาวคอมมูนิตี้มาตั้งแต่ต้นแล้วนั่นเอง

ผมสมัครแอคเคานต์นี้ไว้ตั้งแต่ยุคที่คนไทยยังไม่คุ้นหูกับมันเลยด้วยซ้ำกระมัง พี่ต้น.. พี่ชายอัจฉริยะของ อ.ตั๊ม คือคนแรกที่ชวนผมมาลองเล่น เราเห่อลองกันอยู่ได้ราว 2-3 วัน ก็ล้มเลิกกันไป ในตอนนั้นไคลเอนต์ต่างๆ ยังคงง่อยกระรอกกันอยู่เลย

มันแค่ยังไม่ถึงเวลาของมัน บางอย่างจะเปล่งปลั่งมีคุณค่าก็เมื่อถึงเวลาที่มีคนอยากจะได้มันขึ้นมาจริงๆ

Nostr เป็นฉันใด Right Shift ก็เป็นเช่นนั้น เมื่อถึงเวลา ผมเชื่อเสมอว่าทุกคนจะเห็นคุณค่าในสิ่งที่พวกเราทำ ผมหวังเอาไว้แบบนั้น

ผมยังคิดอะไรที่เพ้อฝันยิ่งไปกว่านี้อีกว่า.. Right Shift จะโตกว่าแค่ 15 คนที่มีอยู่นี่ได้อีกไหม?

เอาอีกแล้วไอ้บ้าตั้ม.. แค่ 15 คนนี้แกยังไม่มีปัญญาจะจ่ายเงินพวกเค้าเลย จะเล่นใหญ่กันอีกแล้วหรอ?

ไม่รู้สิ.. มันไม่ใช่แค่ 15 คนนี้หรอกนะ กระทั่ง Founder เองก็ไม่เคยได้อะไรกันสักแดงเดียวเหมือนกัน นี่มันบริษัทบ้าอะไรกันวะเนี่ย พวกแกต้องว่างมากกันแน่ๆ

แล้วทำไมเราจะมีมากกว่า 15 คนไม่ได้ล่ะ?

ผมพึ่งโพสต์เรื่อง Bitcoin Circle ในกลุ่มไซแอมมีสเมื่อไม่นานมานี้ ผมไม่ได้เขียนเอามันส์แน่ๆ ผมคิดและหวังกับมันจริงๆ แต่ผมทำอะไรกับมีนไม่ได้ เพราะมันต้องเป็นคนอื่นๆ ที่จะลุกขึ้นมาทำมัน..

ผมอยากทิ้งคำถามนี้ไว้ เพื่อชักชวนให้หลายๆ คนได้เอากลับไปคิดกันเล่นๆ เมื่อเราไม่คิดถึงผลกำไร หรือค่าตอบแทนส่วนตัวกันเลย เราจะทำสิ่งใดให้กับคอมมูนิตี้ของเรากันได้บ้าง?

เราจำเป็นต้องได้เป็นหนึ่งในพนักงานมือเปล่าของ Right Shift ไหม?

ผมคิดว่ามันไม่จำเป็น..

เราจะเป็นใครก็ได้ ที่จะจับมือร่วมกันทำ สร้างคุณค่าเอาไว้ให้กับคอมมูนิตี้แห่งนี้ วางรากฐานที่มั่นคงเพื่อจะมีไว้ส่งต่อและรองรับคนรุ่นถัดๆ ไป เราจ้างพวกคุณไม่ไหว เราไม่มีเงินทองมากมายขนาดนั้น แต่ทำไมเราต้องรอให้ผมจ้าง ทำไมต้องรอให้ถูกเลือก

เมื่อผู้เลือกก็ไม่มีตัวตน ผู้ถูกเลือกก็ไม่จำเป็นต้องมีตัวตนด้วยเช่นกัน มันเป็นความฝัน.. ผมยังไม่เคยเจอองค์กรไหนที่มีพนักงานได้มากกว่าที่ตัวเองจะมีปัญญาจ้าง

วันนี้ผมจึงเขียนยาวๆ แบบนี้ เพื่อชักชวนให้ทุกคนลองคิดตามว่า Right Shift ในความมุ่งหมายของผมแท้จริงแล้วมันคือผู้คน
ทุกคนทำแบบ Right Shift ทุกคนล้วนเป็นพันธมิตรที่ร่วมกันทำเพื่อเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือความยั่งยืนและความแข็งแกร่งของคอมมูนิตี้ของเรา

ตลาดในระบบนิเวศเช่นนี้ จะเกิดการแลกเปลี่ยนและหมุนเวียนคุณค่าให้แก่กันและกันไปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตลาดนี้ไม่จำเป็นต้องมีอินฟลูเอนเซอร์ ลืมเรื่องที่ชาวเฟียตเอามายัดใส่หัวเราไปได้แล้ว เพราะทุกคนล้วนเป็นดั่งโหนดไมซีเลียม ที่มีทุกอย่างคล้ายๆ กัน นั่นคือจุดมุ่งหมายและความฝัน เศรษฐกิจจะเกิดขึ้นได้จริง เมื่อไม่ต้องมีแค่ 15 คนที่มานั่งรอรับเงิน

แต่ทุกคนพร้อมจะจ่ายเงินให้แก่กันเพื่อแลกกับคุณค่าที่พวกเขาพึงได้รับ มันน่าสนุกดีนะ.. ถ้าคุณอยากเป็นส่วนหนึ่งกับเรา โปรดรู้ไว้ว่า ผมไม่มีเงินมาจ้างอะไรพวกคุณในตอนนี้หรอกครับ แค่ค่าดำเนินการเบื้องหลังอะไรต่างๆ ค่าจ้างนักบัญชี ภาษี บ้าบอคอแตกก็ทำให้บรรทัดสุดท้ายของเราติดตัวเลขสีแดงไปแล้ว 555

แต่คุณลองตั้งคำถามกับตัวเองดูสิว่า ทำไมไอ้บ้า 10 กว่าคนนี้มันยังอยู่ มันมีผลตอบแทนในมิติอื่นที่พวกเขาได้รับ และแน่นอนว่าพวกเขาคงจะพึงพอใจกับมัน

ก็เพราะพวกเขาเป็นชาวออสเตรียน พวกเขายังคงต้องใช้ชีวิตเพื่อหาเงินเฟียตมาหล่อเลี้ยง พวกเขาต้องมีงานทำ พวกเขาต้องบริหารจัดการเวลา ให้เหลือพอจะมาทำตรงนี้ คุณจะเดินมือเปล่าสื่อผืนหมอนใบมาทำแบบพวกเรา Right Shift ไม่ได้นะครับ ถ้าชีวิตของคุณยังไม่เจอจุด Secure

บอกผมว่าคุณอยากจะทำอะไรเพื่อคอมมูนิตี้ หรือคุณอาจไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้ ผมจะหาให้เจอและฉายไฟไปที่คุณเอง เมื่อคุณสร้างคุณค่า คุณควรได้รับบางอย่างเป็นการตอบแทน อย่าคิดว่ามันไกลตัว เพราะ Right Shift ในตอนนี้ ที่นี่ ก็อยู่ใกล้ๆ แค่ปลายนิ้วของคุณนี่เอง มาเข้าร่วมกับเรา สร้างสรรค์สังคมดีๆ นี้ร่วมกันครับ

ผมพร้อมให้การสนับสนุนและช่วยโปรโมทให้เต็มที่นะ ผมพร้อมพาน้องๆ ไปเข้าร่วมในทุกโปรเจคเท่าที่พอจะทำได้ เพราะผมอยากเห็นใครๆ ลุกขึ้นมาทำประโยชน์เพื่อสังคมมากกว่าแค่พวก Right Shift ผมพูดจากใจจริงครับ

การเขียนลากยาวขนาดนี้อาจไม่ได้ให้อะไรกับคุณเลย นอกจากความท้าทายที่กำลังรอคุณอยู่

มาเมื่อไหร่บอกผมด้วยนะ


Author Public Key
npub1mqcwu7muxz3kfvfyfdme47a579t8x0lm3jrjx5yxuf4sknnpe43q7rnz85